All Blogs

นิคอนเปิดตัวกล้องพรีเมี่ยมคอมแพคเพื่อประสิทธิภาพผลงานในระดับมืออาชีพ

posted on | 0 comments
Original Photo
ประกาศเปิดตัวกล้องใหม่ในซีรี่ส์ DL ซึ่งเป็นกล้องคอมแพค ระดับพรีเมี่ยมที่ใช้เลนส์ทรงประสิทธิภาพของ NIKKOR รองรับการเชื่อมต่อผ่าน SnapBridge และฟีเจอร์การใช้งานอีกหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของช่างภาพระดับมืออาชีพ และผู้ที่หลงใหลในการถ่ายภาพขั้นสูง

กล้องตระกูลใหม่นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกลุ่มช่างภาพนิคอนมืออาชีพ โดยตัว “D” ในชื่อซีรี่ส์ DL นั้นได้มาจากลักษณะอันเป็นตำนานของกล้อง DSLR ของนิคอน ส่วนตัว “L” นั้นสื่อถึงความโดดเด่นในเรื่องของเลนส์ เพราะมีการนำเอาเทคโนโลยีเลนส์ NIKKOR ระดับพรีเมี่ยมมาใช้กับกล้องเหล่านี้ และถือเป็นหัวใจสำคัญที่สร้างความแตกต่างให้กับกล้องในซีรี่ส์นี้ซึ่งมีอยู่ด้วยกันสามรุ่นใหม่ ได้แก่ DL18-50mm f/1.8-2.8, DL24-85mm f/1.8-2.8 และ DL24-500mm f/2.8-5.6 โดยแต่ละรุ่นนั้นจะใช้กลุ่มเลนส์ NIKKOR ที่แตกต่างกันไป เพื่อรูปแบบการถ่ายภาพที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์สำหรับแต่ละรุ่น

กล้อง DL18-50mm f/1.8-2.8 มาพร้อมเลนส์ซูมแบบ ultra-wide-angle ขนาด 18-50มม.*1 ที่สามารถปรับขนาดรูรับแสงกว้างสุดได้สว่างสุดและเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ NIKKOR ในขณะที่กล้อง DL24-85mm f/1.8-2.8 นั้นจะมาพร้อมเลนส์ซูมปกติขนาด 24-85มม.*1 ที่รวดเร็ว ให้การเลือนฉากหลังที่สวยงามและมีประสิทธิภาพการซูมระดับซุปเปอร์มาโคร ตบท้ายด้วยกล้อง DL24-500mm f/2.8-5.6 ที่ใช้เลนส์ ultra-zoom ที่ให้ระดับความละเอียดภาพที่เหนือชั้นกว่าในทุกช่วงทางยาวโฟกัส สูงสุดไปจนถึงระดับ super-telephoto ขนาด 500มม.*1

“กล้องนิคอนในซีรี่ส์ DL นี้มอบผลงานและความสามารถที่จะเติมเต็มชุดกล้องของช่างภาพทั้งหลายได้อย่างลงตัว เพื่อตอบสนองแรงบันดาลใจของพวกเขาได้ในทุกที่ กล้องตระกูลใหม่นี้อัดแน่นไปด้วยความแม่นยำในการบันทึกภาพ ความสมบูรณ์แบบที่มาพร้อมเทคโนโลยีเลนส์อันเลื่องชื่อของ NIKKOR และคุณภาพในการสร้างสรรค์ผลงานผ่านอินเตอร์เฟซที่คุ้นเคยของกล้อง DSLR เพื่ออิสรภาพแห่งประสบการณ์ไร้ข้อจำกัด” มร.ฮิโรชิ โอเซกิ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “นอกจากนี้ ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบ always-on ของ SnapBridge ที่จะช่วยให้แชร์ผลงานอันสมบูรณ์แบบสู่สายตาชาวโลกได้อย่างรวดเร็ว”

กล้องในซีรี่ส์ DL ของนิคอนเป็นกล้องคอมแพคชุดแรกที่มีการใช้ระบบออโต้โฟกัสขั้นสูง (advanced Hybrid AF system) ที่ผสานระบบออโต้โฟกัสแบบ phase-detection และแบบ contrast-detect เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้การบันทึกภาพวัตถุมีความถูกต้องแม่นยำ บริเวณที่โฟกัสนั้นจะละเอียดแน่นเพื่อให้มั่นใจได้ว่าครอบคลุมพื้นที่ออโฟกัสได้กว้างเพื่อประสิทธิภาพของผลงานที่วางใจได้แม้ถ่ายภาพในสภาวะที่ไม่เป็นใจและเกินคาดเดา พร้อมเสริมสมรรถนะด้วยความเร็วออโต้โฟกัสสูงที่ราว 0.09 วินาที*2 และความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องที่น่าทึ่งถึง 20 เฟรมต่อวินาที

ด้วยการนำเอาอินเตอร์เฟซของกล้อง DSLR ของนิคอนมาใช้ ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนไปมาระหว่างการใช้กล้อง DSLR และ DL ได้โดยไม่รู้สึกสะดุด นอกจากนี้ กล้องในซีรี่ส์ DL ยังสามารถบันทึกภาพในฟอร์แมต RAW ได้ เพื่อความสะดวกและให้สามารถปรับแต่งภาพได้อย่างแม่นยำเพื่อผลงานที่มีคุณภาพ

นอกเหนือไปจากความสามารถที่เพิ่มขึ้นในด้านการบันทึกภาพนิ่งแล้ว กล้องในซีรี่ส์ DL ยังตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการบันทึกวีดีโอในแบบ 4K คุณภาพระดับ UHD (3840 × 2160)/30p พร้อมออพชั่นสำหรับการสร้างภาพยนตร์อย่างสร้างสรรค์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการเล่นภาพแบบสโลว์โมชั่นในความเร็วระดับ ultra-low การบันทึกภาพยนตร์ในแบบ time-lapse, superlapse หรือ motion snapshot มาพร้อมโหมดการสร้างสรรค์ให้เลือกอย่างครบครันเพื่อให้ผู้ใช้สามารถผลิตผลงานได้หลากหลายรูปแบบตามใจปรารถนา

กล้องในซีรีส์นี้ยังรองรับ SnapBridge ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเชื่อมต่อใหม่ล่าสุดจากนิคอน เพื่อให้สามารถถ่ายโอนภาพไปยังสมาร์ทดีไวซ์*3 ผ่านบลูทูธพลังงานต่ำได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ ราบรื่นไร้การสะดุด ช่างภาพมืออาชีพจะสามารถอัพโหลดและแชร์ผลงานได้ทันทีที่บันทึกภาพ มอบความสะดวกในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพนอกสถานที่ หรือเมื่ออยู่ในสตูดิโอ

กล้อง DL18-50mm f/1.8-2.8: ความเป็นไปได้อย่างไร้ขีดจำกัด กับทัศนวิสัยที่กว้างกว่าที่เคย



1. อิสรภาพของอำนาจแห่งการบันทึกภาพ
กล้อง DL18-50mm f/1.8-2.8 มาพร้อมทางยาวโฟกัส 18-50มม.*1 และนวัตกรรมแห่งการถ่ายภาพในระดับแนวหน้า หนึ่งในคุณลักษณะที่โดดเด่นจากเลนส์กล้องรุ่นนี้ คือ การผสานทางยาวโฟกัสขนาด 18มม. เข้ากับขนาดรูรับแสงกว้างที่ f/1.8 สามารถปรับขนาดรูรับแสงสูงสุดได้อย่างรวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของเลนส์ NIKKOR เหนือชั้นกว่ากล้อง SLR แบบถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ทุกรุ่นที่เคยมีมาของ NIKKOR คุณสมบัตินี้เมื่อจับคู่เข้ากับความเร็วชัตเตอร์ที่โดดเด่นทำให้สามารถจับภาพการเคลื่อนไหวและคอนทราสต์สูงได้ดี มีโบเก้ลึก สามารถจับภาพได้แม่นยำแม้ถ่ายในสภาพแสงน้อย นอกจากนั้น กล้อง DL18-50mm f/1.8-2.8 ยังเป็นกล้องคอมแพคแบบเดียวในรุ่นที่ใช้เทคโนโลยีเคลือบผิวเลนส์ด้วยนาโนคริสตัล เพื่อลดภาพซ้อนและประกายแสงที่ไม่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความจำเป็นในการแต่งภาพภายหลัง ช่างภาพจึงวางใจให้เวลากับการหาช็อตที่ดีที่สุดได้มากขึ้นโดยไม่ต้องกังวลกับการต้องกลับมาแต่งภาพอีกต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีที่เหนือกว่าอีกหลายประการที่กล้องนี้ถอดแบบมาจากกล้อง DSLR ของนิคอน อาทิ การนำเลนส์กระจกขึ้นรูปแบบโค้งแบนขนาดใหญ่ที่มีอัตราส่วนค่าเบี่ยงเบนความหนาสูง*4 การนำชิ้นเลนส์โค้งแบนแบบกระจายแสงต่ำพิเศษ (aspherical Extra-low Dispersion glass element) และการนำเลนส์ที่มีดัชนีหักเหสูง (High Refractive Index, HRI) มาใช้ร่วมกันเพื่อลดความคลาดเคลื่อนผิดเพี้ยนทุกรูปแบบที่จะเกิดขึ้นจากการถ่ายภาพ

2. บันทึกภาพมุมกว้างสมจริงดั่งตาเห็น
ด้วยการที่ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อการถ่ายภาพมุมมองกว้าง อาทิ สถาปัตยกรรมชั้นเลิศ และทิวทัศน์อันงดงาม กล้องนี้จึงใช้เลนส์ประกอบที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อบันทึกภาพความละเอียดสูงได้อย่างยอดเยี่ยมทั่วถึงบริเวณขอบของภาพแม้ถ่ายที่ตำแหน่งมุมมองกว้างสูงสุด นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่นควบคุมความชัดลึกที่สามารถตรวจจับระยะห่างที่แตกต่างกันของวัตถุทั้งหลายที่โฟกัสในภาพ และช่วยขจัดความบิดเบือนผิดเพี้ยนได้อย่างอัจฉริยะ จึงสามารถแก้ปัญหาที่มักพบได้บ่อยในการถ่ายภาพตึกสูง หรือภาพทิวทัศน์กว้างๆ

3. คุณลักษณะอื่นๆ
⦁ เซ็นเซอร์ภาพ CMOS แบบ backside illumination ขนาด 1.0 นิ้ว
⦁ ระบบประมวลผลภาพ quad-core EXPEED 6A ใหม่ล่าสุด
⦁ ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงที่ระดับราว 20 เฟรมต่อวินาที พร้อมออโต้โฟกัส (AF)*5
⦁ ความแม่นยำด้วยระบบออโต้โฟกัสลูกผสม ครอบคลุมโฟกัส 105 จุดบนเฟรมด้วยระบบ phase-detection AF หรือ 171 จุดด้วยระบบ contrast-detect AF
⦁ ระบบลดความสั่นไหว Dual Detect Optical VR
⦁ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน SnapBridge
⦁ ฟังก์ชั่น Multiple Exposure (Lighten) เพื่อให้ถ่ายชุดภาพเป็นช่วงเวลาได้อย่างง่ายดาย เพื่อภาพลวดลายเส้นแสงที่งดงาม เช่น ภาพการเคลื่อนตัวของดวงดาว หรือภาพแสงวิ่ง
⦁ โหมด Creative ให้ช่างภาพสามารถเลือกใช้งานเอฟเฟ็กต์หรือการปรับค่าที่มีการตั้งไว้ให้แล้วล่วงหน้าได้อย่างง่ายดาย มีให้เลือกกว่า 20 รูปแบบ
⦁ เลนส์เคลือบฟลูออรีนเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาดและการบำรุงรักษา
⦁ วงแหวน Step-zoom เพื่อให้สามารถปรับระยะโฟกัสของเลนส์ได้อย่างรวดเร็ว
⦁ หน้าจอทัชสกรีน OLED ขนาด 3 นิ้วแบบพับเอียงได้ ความชัดระดับราว 1037k จุด ให้สีสดใสสมจริง
⦁ ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ OLED แบบ external พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับดวงตา (อุปกรณ์เสริม)



กล้อง DL24-85mm f/1.8-2.8: พร้อมโคลสอัพทุกสถานการณ์

DL_24_85

1. ผู้เชี่ยวชาญด้านภาพบุคคล
กล้อง DL24-85mm f/1.8-2.8 กับขนาดรูรับแสงที่ f/1.8-2.8 และระยะโฟกัส 24-85มม.*1 มีการออกแบบเลนส์ให้สามารถเลือนฉากหลังได้อย่างแนบเนียนเมื่อถ่ายภาพในระยะใกล้ จึงเป็นกล้องที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพแนวพอร์เทรต เนื่องจากการทำงานร่วมกันของเลนส์กระจกแบบกระจายแสงต่ำพิเศษ คู่กับเลนส์กระจกขึ้นรูปโค้งแบนความแม่นยำสูง และชิ้นเลนส์ที่มีดัชนีหักเหสูง จึงทำให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพเหนือกว่า และลดความบิดเบือนผิดเพี้ยนที่ไม่ต้องการของเลนส์ลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การออกแบบเลนส์ของกล้องรุ่นนี้ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกอย่าง นั่นก็คือ การมีฟิลเตอร์ ND ในตัว ช่วยให้สามารถใช้ชัตเตอร์ความเร็วต่ำได้แม้ถ่ายในพื้นที่ที่มีแสงสว่างจ้า เพราะมันสามารถลดแสงลงได้ถึง 1/8 (เทียบเท่า 3 สต็อป) จึงป้องกันปัญหาโอเวอร์เอ็กซ์โพเชอร์ หรือการให้แสงภาพถ่ายนานเกินไป

2. เก็บรายละเอียดได้มากกว่าที่เห็นด้วยตาเปล่า
ไม่ว่าจะเป็นภาพแมลงตัวน้อย หรือพื้นผิวสัมผัสอันแสนละเอียด กล้อง DL24-85mm f/1.8-2.8 สามารถบันทึกรายละเอียดได้อย่างน่าทึ่ง เหมาะสำหรับช่างภาพที่กำลังมองหามุมมองใหม่ในการถ่ายภาพ สามารถเลือกถ่ายด้วยฟังก์ชั่นซุปเปอร์มาโครเพื่อที่จะเก็บภาพ “เท่าตัวจริง” ของสิ่งที่เล็กเท่าหัวเข็มได้อย่างง่ายดาย ถ่ายโคลสอัพได้เทียบเท่าฟอร์แมต 35มม. และเมื่อถ่ายในโหมดซุปเปอร์มาโคร ผู้ใช้งานยังสามารถเลือกใช้ฟังก์ชั่นได้มากมาย อาทิ Focus Bracketing, Manual-Priority AF และ Focus Peaking โดยฟังก์ชั่น Focus Bracketing นั้นจะสามารถเลื่อนตำแหน่งโฟกัสเล็กน้อยได้เองโดยอัตโนมัติในระหว่างการถ่ายภาพต่อเนื่อง ซึ่งช่วยได้มากในกรณีถ่ายภาพในโหมดซุปเปอร์มาโครที่ปกติแล้วโฟกัสได้ยาก เนื่องจากความลึกของภาพนั้นมีน้อยมาก

3. คุณลักษณะอื่นๆ
⦁ เซ็นเซอร์ภาพ CMOS แบบ backside illumination ขนาด 1.0 นิ้ว
⦁ ระบบประมวลผลภาพ quad-core EXPEED 6A ใหม่ล่าสุด
⦁ ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงที่ระดับราว 20 เฟรมต่อวินาที พร้อมออโต้โฟกัส (AF)*5
⦁ ความรวดเร็วและแม่นยำด้วยระบบออโต้โฟกัสลูกผสม ครอบคลุมโฟกัส 105 จุดบนเฟรมด้วยระบบ phase-detection AF หรือ 171 จุดด้วยระบบ contrast-detect AF
⦁ ระบบลดความสั่นไหว Dual Detect Optical VR
⦁ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน SnapBridge
⦁ ฟังก์ชั่น Multiple Exposure (Lighten) เพื่ออำนวยความสะดวกในการถ่ายภาพเป็นชุดตามช่วงเวลาได้อย่างง่ายดาย สำหรับภาพที่ต้องการแสดงลวดลายเส้นแสงที่งดงาม
⦁ โหมด Creative ให้เลือกใช้เอฟเฟ็กต์และค่าที่ตั้งไว้ให้แล้วล่วงหน้าได้ถึง 20 แบบเพื่อสื่อแนวทางศิลป์ได้ตรงใจ
⦁ เลนส์เคลือบฟลูออรีนเพื่อให้ทำความสะอาดและบำรุงรักษาได้ง่ายไร้กังวล
⦁ วงแหวน Step-zoom เพื่อให้สามารถปรับระยะโฟกัสของเลนส์ได้อย่างรวดเร็ว
⦁ หน้าจอทัชสกรีน OLED ขนาด 3 นิ้วแบบพับเอียงได้ ความชัดระดับราว 1037k จุด ให้สีสดเด่นชัด
⦁ แฟลชในตัว
⦁ ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ OLED แบบ external พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับดวงตา (อุปกรณ์เสริม)



กล้อง DL24-500mm f/2.8-5.6: กล้อง DL สำหรับงานถ่ายภาพระยะไกล

DL_24_500

1. สมรรถนะการถ่ายภาพแบบเทเลโฟโต้ในกล้องคอมแพค
กล้อง DL24-500mm f/2.8-5.6 จะนำพาผู้ใช้สู่ใจกลางของเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นด้วยเลนส์ซูมความละเอียดสูงของ NIKKOR ขนาด 24-500มม.*1 และรูรับแสงกว้างสุดที่ f/2.8-5.6 ผสานสมรรถนะของกลไกซุปเปอร์เทเลโฟโต้ เพื่อผลงานที่มีคุณภาพสูงน่าทึ่ง กล้องนี้มีทางยาวโฟกัสที่ครอบคลุมในระดับกว้าง จึงเหมาะกับหลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกภาพการแข่งขันกีฬา หรือภาพสัตว์ป่าในโหมดซุปเปอร์เทเลโฟโต้ 500มม. หรือจะเป็นภาพทิวทัศน์กว้างไกลที่ 24มม. แต่ไม่ว่าระดับการซูมจะเป็นเท่าใด ชิ้นเลนส์โค้งแบนแบบกระจายแสงต่ำพิเศษของกล้องนี้จะสามารถชดเชยแก้ไขความผิดเพี้ยนทุกรูปแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ ความพร่าสี และความบิดเบี้ยวของวัตถุ ภาพที่ได้จะมีความคมชัดสมบูรณ์แบบ

2. บันทึกทุกการเคลื่อนไหวแม้ในขณะที่ผู้ถ่ายเคลื่อนที่ไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวจากระยะไกล หรือการถ่ายภาพจากบนรถที่กำลังวิ่งอยู่ กล้อง DL24-500mm f/2.8-5.6 สามารถให้ภาพที่คมชัด ไม่พร่าไหว ด้วยความช่วยเหลือของระบบลดความสั่นไหวแบบ Dual Detect Optical VR ที่ลดผลจากการสั่นกล้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น กล้องนี้ยังมีโหมด SPORT (VR) เสริมเข้ามาใหม่ ซึ่งโหมดนี้ปกติแล้วจะมีให้ในเลนส์เทเลโฟโต้แบบถอดเปลี่ยนได้ของกล้อง DSLR เท่านั้น ทำให้กล้อง DL24-500mm f/2.8-5.6 ตัวนี้สามารถรองรับการติดตามถ่ายภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวไร้ทิศทางได้ดี อย่างเช่น ภาพสัตว์ป่า หรือนักกีฬาในสนาม ช่วยให้การถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงมีความถูกต้องแม่นยำ และการถ่ายภาพแพนกล้องมีความลื่นไหลต่อเนื่อง

3. คุณลักษณะอื่นๆ
⦁ เซ็นเซอร์ภาพ CMOS แบบ backside illumination ขนาด 1.0 นิ้ว
⦁ ระบบประมวลผลภาพ quad-core EXPEED 6A ใหม่ล่าสุด
⦁ ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงที่ระดับราว 20 เฟรมต่อวินาที พร้อมออโต้โฟกัส (AF)*5
⦁ บันทึกภาพได้ในหลายสถานการณ์ผ่านระบบออโต้โฟกัสลูกผสม ครอบคลุมโฟกัส 105 จุดบนเฟรมด้วยระบบ phase-detection AF หรือ 171 จุดด้วยระบบ contrast-detect AF
⦁ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน SnapBridge
⦁ ฟังก์ชั่น Multiple Exposure (Lighten) เพื่อการรวมชุดภาพถ่ายที่บันทึกตามช่วงเวลา ให้เห็นเส้นทางแสง หรือการเคลื่อนตัวของดวงดาวได้อย่างง่ายดาย
⦁ โหมด Creative ให้เลือกใช้เอฟเฟ็กต์และค่าที่ตั้งไว้ให้แล้วล่วงหน้าได้กว่า 20 รูปแบบ
⦁ เลนส์เคลือบฟลูออรีนเพื่อให้ทำความสะอาดและบำรุงรักษาได้ง่ายไม่ยุ่งยาก
⦁ หน้าจอทัชสกรีน OLED ขนาด 3 นิ้วแบบบิดพับปรับองศาได้ พร้อมความละเอียดราว 1037k จุด ให้ภาพสดชัด สีสันโดดเด่น
⦁ มีแฟลชในตัว
⦁ ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ในตัว ความละเอียดราว 2359k จุด ขนาด 0.39 นิ้ว OLED ความละเอียดสูงในระดับ ultra-high เคลือบสารกันแสงสะท้อน และเซ็นเซอร์ดวงตาเพื่อการมองวัตถุได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน

ตัวอักษรและตราสัญลักษณ์บลูทูธ (Bluetooth®) เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Bluetooth SIG, Inc. การใช้ตัวอักษรและตราสัญลักษณ์ดังกล่าวโดยนิคอน คอร์ปอเรชั่น อยู่ภายใต้การอนุญาตทางลิขสิทธิที่ถูกต้อง เครื่องหมายการค้าและชื่อทางการค้าอื่นใดที่ปรากฏเป็นลิขสิทธิของผู้ถือครองสิทธิโดยชอบด้วยกฏหมาย

1 เทียบเท่าทางยาวโฟกัสในฟอร์แมต 35มม. [135]

2 อ้างอิงตามแนวทางที่กำหนดโดย CIPA ผลที่ได้จริงถูกวัดภายใต้เงื่อนไขการทดสอบของนิคอน

3 สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ iOS หรือ AndroidTM

4 ความแตกต่างในความหนาของเลนส์ระหว่างศูนย์กลางเลนส์และขอบเลนส์

5 เมื่อใช้ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ ความเร็วประมาณ 60 เฟรมต่อวินาที ในขณะล็อคออโต้โฟกัส


SnapBridge

เกี่ยวกับ SnapBridge
ในยุคที่การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ SnapBridge ที่มาพร้อมการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อผ่านบลูทูธ (Bluetooth®) สามารถช่วยให้การเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างกล้องและสมาร์ทดีไวซ์เป็นไปได้โดยอัตโนมัติ การดูหรืออัพโหลดภาพจึงเป็นเรื่องที่แสนสะดวกและง่ายดาย ด้วยแพลตฟอร์มการเชื่อมต่อแบบไร้สายหลายรูปแบบ ผู้ใช้งานจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับการโอนย้ายภาพโดยอัตโนมัติ การถ่ายภาพผ่านรีโมต และมีอิสระในการรับชมภาพจากสมาร์ทดีไวซ์บนจอที่ใหญ่กว่า นอกจากนี้ SnapBridge ยังสามารถบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ และรายละเอียดต่างๆ (credit information) ลงบนภาพ รวมถึงการซิงค์วัน/เวลา และการอัพโหลดภาพขึ้น Nikon Image Space ได้โดยอัตโนมัติ ทำให้การแชร์ผลงานที่สร้างสรรค์เป็นไปได้อย่างรวดเร็วทันใจ และง่ายดาย

ปล. ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจากนิคอน เซลส์(ประเทศไทย) 

Comments info